“Metthier” เปิดตลาดผู้ให้บริการ Smart Facility Management รายแรกของไทย ทุ่มทุนพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูง เสริมทัพทีมบริการหลากหลายด้านสู่อีกขั้นของการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์อัจฉริยะ ด้วย MIOC ศูนย์รวมระบบปฏิบัติการสุดล้ำ สร้างแบบจำลองอาคารด้วย 3D Visualization และ Digital Mapping พร้อมรองรับมาตรฐานการปฏิบัติงานของแต่ละองค์กร เชื่อมเทคโนโลยี AI และ IoT ตรวจจับทุกพื้นที่ พร้อมหุ่นยนต์อัจฉริยะ ต่อยอดสู่ 3 บริการใหม่ สร้างสภาพแวดล้อมที่มีคุณภาพและปลอดภัย ตอบโจทย์องค์กรทุกระดับ รองรับการเติบโตของโลกอสังหาฯ แห่งอนาคต
ขยล ตันติชาติวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมทเธียร์ จำกัด (Metthier) ผู้ให้บริการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์อัจฉริยะ (Smart Facility Management) แบบครบวงจร กล่าวว่า ด้วยวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ ที่ต้องการยกระดับสังคมไทยเพื่อรอยยิ้มและความอุ่นใจมากยิ่งขึ้น ผ่านแนวคิด “RISE ABOVE ORDINARY ที่เมทเธียร์เราเหนือกว่าด้วยเทคโนโลยี” เป็นแรงผลักดันให้ Metthier สร้างสรรค์บริการด้วยทีมงานที่มีศักยภาพ ผสานการทำงานกับเทคโนโลยีขั้นสูง เพิ่มประสิทธิภาพความปลอดภัยและความสะดวกสูงสุดแก่ผู้รับบริการ โดย Metthier มีจุดแข็งด้าน Tech Knowhow ที่ส่งต่อจากบริษัทแม่อย่าง SKY บริษัท Tech Company รายใหญ่ที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี และเข้าซื้อกิจการบริษัท รักข์สยาม (SAMCO) ที่มีประสบการณ์ในการดูแลรักษาอาคารและสถานที่ชั้นนำของประเทศไทย พร้อมบุคลากรกว่า 6,000 คน เข้ามาเป็นหนึ่งขุมพลังหลักของการให้บริการ และตั้งเป้าเพิ่มบุคลากรมากกว่า 10,000 คน ภายในต้นปีหน้า เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้ Metthier กลายเป็นผู้เล่นรายใหญ่รายแรกด้าน Smart Facility Management ที่ล้ำสมัยที่สุดในประเทศไทย
Metthier ได้ยกระดับความแข็งแกร่งด้าน Smart Facility Management เพื่อส่งมอบบริการที่เหนือกว่า ด้วยการพัฒนาศูนย์ปฏิบัติการอัจฉริยะเมทเธียร์ (Metthier Intelligent Operation Center: MIOC) ที่ช่วยบริหารจัดการความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกภายในอาคารหรือพื้นที่ทั้งหมดให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถสร้างแบบจำลองอาคาร 3 มิติ (3D Visualization) และระบุพิกัดภายในอาคารดิจิทัล (Digital Mapping) แสดงผลภาพรวมแต่ละชั้นของอาคารและระบุตำแหน่งเหตุการณ์ได้แม่นยำแบบเรียลไทม์ พร้อมดำเนินการตามมาตรฐานการปฏิบัติงานของแต่ละอุตสาหกรรมได้อย่างไร้รอยต่อ ช่วยให้วิเคราะห์และแก้ไขปัญหาได้รวดเร็ว รวมถึงสามารถคาดการณ์สถานการณ์เพื่อเตรียมรับมือล่วงหน้า
ขณะเดียวกัน ยังพัฒนาระบบบริหารจัดการกำลังพล (Workforce Management System) ที่ช่วยในการวางแผนกำลังเจ้าหน้าที่ภายในพื้นที่ล่วงหน้า พร้อมบันทึกข้อมูลและจัดทำรายงานผลการทำงานของเจ้าหน้าที่ เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่เกิดความคล่องตัวสูงสุด โดยทำงานร่วมกับแอปพลิเคชัน MettLink สามารถบันทึกเวลาเข้า-ออกงานด้วยการสแกนใบหน้า ทำให้ตรวจสอบข้อมูลลงเวลาทำงานแบบเรียลไทม์ เชื่อมต่อระหว่างศูนย์ปฏิบัติการและเจ้าหน้าที่ได้ รวมทั้งระบุจุดที่ตั้งของเจ้าหน้าที่และจุดเกิดเหตุ เพื่อให้สามารถแก้ไขเหตุการณ์ ได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที
ทั้งนี้ Metthier ได้ต่อยอดความเชี่ยวชาญของทีมบุคลากรคุณภาพและเทคโนโลยีขั้นสูงที่พัฒนาขึ้น สู่บริการ Smart Facility Management ใน 3 รูปแบบ ได้แก่
1. ระบบบริหารจัดการผู้มาติดต่อ (Visitor Management Solutions) ใช้เทคโนโลยีการจดจำใบหน้า (Face Recognition) ที่มีความแม่นยำสูง สามารถจัดการและรายงานข้อมูลผู้มาติดต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผู้มาติดต่อได้รับประสบการณ์ที่ดีและปลอดภัยมากยิ่งขึ้นทันที พร้อมเชื่อมต่อเข้ากับ 2 ระบบ ได้แก่
1.1 ระบบควบคุมการเข้าออกแบบอัตโนมัติ (Access Control Solution) ด้วยระบบประตูกั้นสแกนใบหน้า (Face Recognition Turnstile) มีการตรวจจับและระงับบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาตเข้ามาในพื้นที่ ผสานความแม่นยำของการพิสูจน์ตัวตนด้วยใบหน้าจากการประมวลผลด้วย AI และเก็บข้อมูลในคลาวด์ เพื่อการเข้าถึงข้อมูลได้ปลอดภัยและรวดเร็ว
1.2. ระบบจอดรถอัจฉริยะ (Smart Parking Solution) ด้วยระบบการจดจำเลขทะเบียนรถ (License Plate Recognition: LPR) ใช้ความแม่นยำของ AI ระบุและแปลอักขระทะเบียนรถได้เรียลไทม์ นอกจากนี้ยังเชื่อมโยงกับระบบลงทะเบียนผู้มาติดต่อ เพื่อระบุบุคคลเข้า-ออกอาคารผ่านทะเบียนรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถวิเคราะห์ข้อมูลการจอดรถทั้งหมดพร้อมแนะนำช่องจอดที่เหมาะสมที่สุด เสริมประสิทธิภาพการวางแผนพื้นที่จอดรถและประหยัดเวลาผู้ใช้บริการ
2. การให้บริการด้านความปลอดภัย (Security as a Service) ให้บริการรักษาความปลอดภัยระดับสูง ด้วยเทคโนโลยีและเจ้าหน้ารักษาความปลอดภัยที่ได้รับการอบรมด้านความปลอดภัยอย่างเข้มข้น ให้ผู้ใช้บริการได้รับการดูแลและปลอดภัยในทุกสถานการณ์
2.1. ระบบบริหารจัดการเหตุการณ์ฉุกเฉินอัจฉริยะ (Smart Incident Management) ทำงานเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Smart IoT โดยการใช้ AI ในการวิเคราะห์เพื่อกำหนดลำดับเหตุการณ์ที่มีความสำคัญ แล้วแจ้งเตือนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างทันท่วงที
2.2. เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (Security Manpower) ด้วยทีมงานที่มีประสบการณ์ด้านบริการรักษาความปลอดภัยอย่างยาวนาน และความสามารถเฉพาะด้านจากการฝึกอบรม เพื่อให้ดูแลความปลอดภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมให้บริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง
2.3. การบริหารจัดการทรัพย์สินมูลค่าสูง (High Value Asset Management) สำหรับขนส่งทรัพย์สินที่มีค่าของบุคคล องค์กร และสถาบันการเงินชั้นนำอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีระบบการบริหารจัดการที่ยอดเยี่ยม ร่วมกับรถขนส่งเกราะที่ถูกออกแบบเพื่อความปลอดภัยสูงสุด
3. การบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ (Facility Management Service) ยกระดับการทำงานของการอำนวยความสะดวกภายในอาคารสถานที่ เพื่อให้ผู้รับบริการมั่นใจว่าทุกอาคารสำนักงานและสถานที่ต่างๆ ที่อยู่ภายใต้การดูแลของ Metthier มีสภาพแวดล้อมที่ดีและสะอาดอยู่เสมอ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย รวมถึงผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ทั้งเคมีอุปกรณ์และเครื่องจักรครบวงจร พร้อมมอบบริการที่น่าประทับใจและประสบการณ์ที่เหนือว่าแก่ผู้ใช้บริการ
3.1. พนักงานรักษาความสะอาด (Cleaning Manpower) ให้บริการทีมแม่บ้านที่มีความเชี่ยวชาญและถูกคัดเลือกฝึกอบรมอย่างเข้มข้น เพื่อให้มีความเชี่ยวชาญในการให้บริการทำความสะอาดในมาตรฐานที่สูงสุด
3.2. พนักงานทำความสะอาดเฉพาะทาง (Cleaning Specialist) อาทิ บริการทำความสะอาดกระจกอาคารสูงทั้งภายในและภายนอกอาคาร รวมถึงงานเฉพาะทางต่างๆ ที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญสูงในการดำเนินการ เพื่อให้ผู้รับบริการได้รับผลลัพธ์ที่มีคุณภาพและปลอดภัย
3.3. พนักงานซ่อมบำรุงอาคารและงานอาคารสถานที่ (FM Engineer) บริการทีมพนักงานที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในงานซ่อมบำรุงและดูแลอาคาร เช่น ช่างอาคาร ผู้จัดการอาคาร นักทำสวน หรือเจ้าหน้าที่ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานอาคารสถานที่ เพื่อบริหารจัดการและดูแลรักษาอาคารอย่างมีประสิทธิภาพ
พร้อมหุ่นยนต์อัจฉริยะ (Smart Robotics) ยกระดับนวัตกรรมด้าน FM ด้วยหุ่นยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่สามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง ดูแลให้ทุกพื้นที่ทั้งการทำงานภายในและภายนอกอาคารเรียบร้อยได้ภายในระยะเวลาสั้นๆ พร้อมติดตามการทำงานผ่านแดชบอร์ดได้แบบเรียลไทม์
นอกจากนี้ Metthier กำลังพัฒนาระบบบริหารจัดการการใช้ทรัพยากรภายในอาคาร (Power & Resource Consumption Management) ช่วยวิเคราะห์และวางแผนการใช้พลังงานไฟฟ้า น้ำ และอากาศให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด เพื่อลดต้นทุนจากการใช้ทรัพยากรที่ไม่จำเป็น ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตอบโจทย์ธุรกิจที่ต้องการขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืน
Metthier ตั้งเป้าขยายฐานลูกค้ากลุ่มเจ้าของหรือผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ ที่ต้องการยกระดับความปลอดภัยและสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีภายในอาคารทั้ง 5 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1.โรงงานอุตสาหกรรม 2.โครงการมิกซ์ยูส (Mixed-Use) 3.โรงพยาบาล 4.สถาบันการเงิน 5.สถานศึกษา สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.metthier.co.th
“ความเชื่อมั่นของลูกค้าสร้างได้ด้วยผลลัพธ์ที่ชัดเจนและพิสูจน์ได้จริง Metthier จึงตั้งใจนำเสนอบริการและเทคโนโลยีที่จะสร้างมิติใหม่ พลิกโฉมการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ให้ก้าวล้ำยิ่งกว่าครั้งไหนๆ และเราพร้อมที่จะพัฒนาบริการอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อสร้างรอยยิ้มและความอุ่นใจให้กับคนไทยทุกคน” ขยล กล่าว