บริษัทลอนจิ กรีน เอ็นเนอร์จี เทคโนโลยี จำกัด (ลอนจิ) ผู้นำด้านพลังงานแสงอาทิตย์ระดับโลก พร้อมปฏิวัติวงการพลังงานหมุนเวียนด้วยเทคโนโลยีพีวีรุ่นบุกเบิกของแบรนด์ที่พร้อมรองรับทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ด้วยวิสัยทัศน์ที่ครอบคลุม 5 กลุ่มสินค้าหลัก ได้แก่ เวเฟอร์โมโนคริสตัลไลน์ เซลล์และโมดูล โซลูชั่นพลังงานแสงอาทิตย์แบบกระจายการผลิต โซลูชั่นสถานีผลิตไฟฟ้าและระบบพลังงานไฮโดรเจน
ด้วยความมุ่งมั่นจะที่สนับสนุนการใช้งานพลังงานหมุนเวียน ลอนจิมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เข้าร่วมงาน ASEAN Sustainable Week 2023 ซึ่งจะจัดขึ้น ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ระหว่างวันที่ 30 สิงหาคม – 1 กันยายน 2566 เพราะนับเป็นเวทีชั้นนำระดับอาเซียนด้านความก้าวหน้าภาคพลังงานและสิ่งแวดล้อมที่ทุกคนรอคอย โดยมีองค์กรธุรกิจตบเท้าเข้าร่วมจัดแสดงนวัตกรรมล่าสุดของวงการ
การเข้าร่วมงานดังกล่าวฉายชัดถึงความมุ่งมั่นของลอนจิที่มีต่อตลาดอาเซียนและเข้าใจในความต้องการที่แตกต่างกันของลูกค้าแต่ละรายอย่างจริงจัง ซึ่งส่งผลให้ลอนจิมีการบริการที่โดดเด่น ในงาน ASEAN Sustainable Week 2023 ลอนจิมีความมุ่งหวังที่จะนำเสนอผลงานอันเกิดจากความทุ่มเทในการพัฒนาพลังงานหมุนเวียน รวมไปถึงการสร้างสายสัมพันธ์อันดีกับผู้มีส่วนได้เสียในทุกภาคส่วน อีกทั้งยังถือเป็นโอกาสให้ลอนจิได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งเป็นนวัตกรรมโซลูชั่นล้ำสมัยในซีรีส์ Hi-MO 6 และ Hi-MO 7 ตลอดไปจนถึงผลงานด้านความยั่งยืน ESG (สิ่งแวดล้อม สังคมและธรรมาภิบาล) อีกด้วย
คุณชิน ลี ผู้อำนวยการลอนจิ กลุ่มธุรกิจสาธารณูปโภค ประจำภูมิภาคคาบสมุทรเอเชียใต้ กล่าวว่า “ลอนจิ เราเน้นย้ำในคุณค่าและความสำคัญของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายมาโดยเสมอ ตลอดจนถึงการเสริมสร้างความสัมพันธ์ให้มีความแน่นแฟ้นกับกลุ่มลูกค้าชาวไทย โดยลองจิได้ปฏิรูปวิธีสร้างยอดขายจากการเป็นผู้จำหน่ายเพียงราวเดียวไปสู่ระบบปฏิบัติการ CC3 โดยมีความมุ่งหวังเพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันจากภายในของทีมงานท้องถิ่นเพื่อให้บริการลูกค้าของเรา นอกจากนั้นลองจิยังได้สร้างกรณีศึกษาความสำเร็จผ่านโครงการขนาดใหญ่มากมายในระดับโลก ทั้งในระดับภาคพื้นดิน บนพื้นลอยน้ำ ตลอดจนถึงยอดเขา รวมไปถึงการประยุกต์ใช้ผ่านทัศน์มากมาย โดยเราได้แนะนำการประยุกต์ใช้ผ่านฉากทัศน์อันหลากหลายในประเทศไทยด้วยระบบปฏิบัติการ CC3 ลำดับสุดท้าย ผมในฐานะตัวแทนของลอนจิ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้นำเสนอนวัตกรรมในซีรีส์ Hi-MO 7 ซึ่งเป็นโมดูลโรงไฟฟ้าภาคพื้นดินขนาดใหญ่ซึ่งเปี่ยมไปด้วยคุณค่าแก่ลูกค้าผู้ทรงเกียรติภายในงานนี้ โดยเรามีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า คุณประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับจากนวัตกรรมชิ้นนี้จะเป็นการช่วยลดต้นทุนการผลิตพลังงานแบบปรับระดับ (LCOE) ได้อย่างมีนัยสำคัญ”
คุณหม่า เหมิง ผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคอินโดจีน ธุรกิจกำกับดูแลข้อมูลของลอนจิ กล่าวว่า “ลอนจิได้ประกาศแล้วว่าจะสร้างสรรค์โซลาร์เซลล์สำหรับทุกตารางนิ้วของอาคารหรือ BIPV เราจึงได้ปฏิวัติวงการด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่พร้อมผลิตไฟฟ้าอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น LONGi Roof (หลังคาสร้างพลังงานแสงอาทิตย์) LONGi Bright (วัสดุก่อสร้างแบบสี)
“ลอนจิภูมิใจที่ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ระดับนวัตกรรมเหล่านี้ให้กับตลาดอาเซียน รวมถึงประเทศไทย โดยนวัตกรรมของเราได้เร่งการลดต้นทุนการผลิตพลังงานแบบปรับระดับ (Levelized Cost of Energy) ซีรีส์ Hi Mo ประกอบไปด้วย ซีรีส์ Hi-Mo 6 ที่มีแผงแบบ Explorer Scientist Guardian และ Artist ก็ช่วยลดต้นทุนอย่างมีนัยสำคัญเช่นกันเพราะแผงดังกล่าวผสานรวมเทคโนโลยีแบบ HPBC หรือ Hybrid Passivated Back Contact ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานกับหลังคาพลังงานแสงอาทิตย์โดยเฉพาะ ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศไทยและขึ้นแท่นสินค้าขายดีในตลาดโลกด้วย” คุณหม่า เหมิงระบุ
คุณฟิโอนา โม ผู้อำนวยการลอนจิประจำประเทศไทย กล่าวว่า “ประเทศไทยมีความสำคัญต่อกลยุทธ์การตลาดของเรามาก ปัจจุบัน ลอนจิ ประเทศไทย ซึ่งเป็นหน่วยธุรกิจภายใต้แบรนด์ลอนจิ จึงทุ่มเทที่จะให้บริการครบวงจรแก่ลูกค้าและหาพันธมิตรในไทย นอกจากนี้ เรายังมุ่งมั่นที่จะร่วมสนับสนุนนโยบายและแผนของประเทศไทยที่ต้องการจะมีความเป็นกลางทางคาร์บอนอย่างเต็มที่”
เกี่ยวกับลอนจิ
ลอนจิ กรีน เอ็นเนอร์จี้ เทคโนโลยี จำกัด (ลอนจิ) เป็นบริษัทเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์ชั้นแนวหน้าของโลกที่ช่วยรองรับการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคพลังงานยั่งยืน ผ่านการนำเสนอนวัตกรรมพีวีเวเฟอร์โมโนคริสตัลไลน์ เซลล์และโมดูล โซลูชั่นพลังงานแสงอาทิตย์แบบกระจายการผลิต โซลูชั่นสถานีผลิตไฟฟ้าและระบบพลังงานไฮโดรเจน
ลอนจิได้บูรณาการความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีเข้ากับผลิตภัณฑ์ / โซลูชั่นพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดและพลังงานไฮโดรเจนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างสมบูรณ์แบบ ก่อเกิดเป็นพลังขับเคลื่อนให้ทั่วโลกเดินหน้าสู่โหมดการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์และความยั่งยืน บริษัทมีนักวิจัยในสังกัดมากกว่า 4,036 คนและเป็นเจ้าของสิทธิบัตรมากถึง 2,132 ฉบับ ทั้งนี้ ลอนจิประกอบธุรกิจในระดับโลก โดยมีการตั้งโรงงานผลิตและสำนักงานขายในกว่า 150 ประเทศ พร้อมรองรับกลุ่มลูกค้าพันธมิตรที่มีอยู่กว่า 5,000 ราย ฐานการผลิตสินค้าหลักอยู่ในจีน เวียดนามและมาเลเซีย ขณะที่สำนักงานสาขาที่บทบาทในเชิงยุทธศาสตร์เปิดทำการในประเทศสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น อินเดีย ออสเตรเลีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และประเทศไทย
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชม https://www.longi.com/.