DeeMoney จับมือ SCB รุกตลาดเมียนมาเชื่อมประสบการณ์การโอนเงินข้ามพรมแดน โอนง่าย ปลอดภัย รับเงินเร็ว

0
170

บริษัท สวัสดีช้อป จำกัด ฟินเทคผู้พัฒนาแพลตฟอร์ม DeeMoney (ดีมันนี่) แพลตฟอร์มด้านธุรกรรมข้ามพรมแดนสัญชาติไทย รองรับกว่า 26 สกุลเงิน ครอบคลุมกว่า 50 ประเทศทั่วโลก ผนึกพันธมิตรทางธุรกิจกับ ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCB ประกาศความร่วมมือสนับสนุนระบบบริการโอนเงินระหว่างประเทศ (Money Transfer Operators) จากประเทศไทยไปยังประเทศเมียนมา มุ่งเน้นการพัฒนาบริการโอนเงินข้ามประเทศให้เป็นเรื่องง่าย สะดวก รวดเร็ว พร้อมให้อัตราแลกเปลี่ยนที่ดีกว่าตลาด เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับแรงงานชาวเมียนมา กว่า 2 ล้านราย รวมไปถึงผู้ประกอบธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง (SMEs) ที่ต้องการโอนเงินไปยังประเทศเมียนมา ตั้งเป้าที่จะเป็นตัวเลือกแรกของชาวเมียนมาโดยมีผู้ใช้งานประจำ (Active user) ไม่น้อยกว่า 150,000 คน และมีมูลค่าการทำธุรกรรมมากกว่า 2 พันล้านบาท ในสิ้นปี 2567

จากการสำรวจของ DeeMoney ในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา พบว่า กว่าร้อยละ 94  ของแรงงานชาวเมียนมา มีการโอนเงินกลับประเทศผ่านตัวแทนโอนเงินนอกระบบ (Hundi) โดยบางส่วนนำเงินกลับประเทศด้วยตนเองหรือผ่านคนรู้จัก และมีเพียงส่วนน้อยที่ใช้การโอนเงินผ่านระบบธนาคาร ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการที่ผู้ใช้บริการส่วนใหญ่ยังไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้อย่างเต็มที่ (Unbanked) รวมไปถึงอัตราแลกเปลี่ยนในระบบการเงินปกติก็มีอัตราที่สูงกว่าบริการนอกระบบ (Hundi)

ผลสำรวจดังกล่าว จึงนำไปสู่การพัฒนาความร่วมมือระหว่างสองยักษ์ใหญ่ DeeMoney และ SCB ในการบริหารอัตราแลกเปลี่ยนไทยบาทและเมียนมาจ๊าดโดยตรง ส่งผลให้ DeeMoney กลายเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการที่เสนออัตราแลกเปลี่ยนที่ดีที่สุดในการโอนเงินจากประเทศไทยไปยังประเทศเมียนมา โดยความร่วมมือดังกล่าวข้างต้นได้รับอนุญาตจากธนาคารกลางทั้งสองประเทศ กล่าวคือ ธนาคารแห่งประเทศไทย (Bank of Thailand) และธนาคารกลางเมียนมา (Central Bank of Myanmar) อีกด้วย

ในส่วนของประเทศปลายทาง DeeMoney มุ่งมั่นที่จะขยายเครือข่ายให้ครอบคลุมมากที่สุด เพื่อให้ลูกค้าสามารถโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารชั้นนำในประเทศเมียนมา อาทิเช่น  A Bank, Aya Bank, CB bank, KBZ bank, Yoma bank และอีกมากกว่า 20 ธนาคาร นอกจากนี้ยังมีเป้าหมายในการเปิดให้บริการโอนเงินเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Wallet) ที่มีกลุ่มผู้ใช้งานจำนวนมาก ได้แก่ WAVEPAY หรือ Wave Money, A+ Wallet และ AYA Pay เป็นต้น โดยที่เป้าหมายบัญชีปลายทางที่จะพร้อมรับเงินนั้น มีมากกว่า 8 ล้านบัญชี อีกทั้งผู้รับเงินยังสามารถเบิกถอนเงินสด (Cash-out)  ได้ที่สาขาของธนาคาร ตู้ ATM และจุดให้บริการต่างๆ กว่า 130,000 จุดทั่วประเทศ

DeeMoney ให้ความมั่นใจว่าเงินที่ลูกค้าโอนจะสามารถถึงมือผู้รับได้ทันที หากเลือกที่จะโอนเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Wallet) ในขณะที่การโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารก็ใช้เวลาแค่เพียง 1 วันทำการเท่านั้น ทั้งนี้มูลค่าธุรกรรมสูงสุดที่ผู้โอนสามารถทำได้คือ ไม่เกิน 5 หมื่นบาทต่อรายการ

นายอัศวิน พละพงศ์พานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง DeeMoney กล่าวว่า DeeMoney และ SCB เป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่ดีต่อกัน ซึ่งเล็งเห็นถึงความสำคัญในการพัฒนาบริการทางการเงินให้แก่ชาวเมียนมาที่มาพํานักและทํางานในประเทศไทยกว่า 2 ล้านราย ที่มีความต้องการส่งเงินกลับประเทศคิดเป็นมูลค่ากว่า 1.33 พันล้านเหรียญสหรัฐต่อปี หรือราว 48,000 ล้านบาทต่อปี ให้สามารถทำการโอนเงินได้ด้วยตนเองผ่านแอปพลิเคชันของ DeeMoney ที่มีความปลอดภัยสูงแทนการโอนเงินแบบพึ่งพานายหน้าอย่างที่ผ่านมา โดยผู้ใช้งานสามารถทำรายการได้ทุกที่ทุกเวลา อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ผ่านแอปพลิเคชัน DeeMoney ด้วยค่าธรรมเนียมคงที่ (Flat Fee) เพียงรายการละ 49 บาท รวมถึงมีแอปพลิเคชัน และคอลเซนเตอร์ให้บริการในภาษาเมียนมาทุกวันอีกด้วย 

ทั้งนี้ ปรากฎการณ์ความร่วมมือระหว่าง DeeMoney และ SCB รวมถึงธนาคารพันธมิตรในประเทศเมียนมา จะนำไปสู่ความร่วมมือในการพัฒนาระบบนิเวศการโอนเงินข้ามประเทศ (Cross-border remittance ecosystem) ที่สำคัญระหว่างประเทศไทยและประเทศเมียนมาในอนาคต”  นายอัศวินกล่าว

เพื่อเป็นการตอกย้ำความร่วมมือในการโอนเงินไปต่างประเทศ DeeMoney ได้จัดกิจกรรมโปรโมชั่นใหญ่ประจําปี กับแคมเปญ “DeeMoney โอนดี แจกฟรี เทสล่า” เปิดโอกาสให้ลูกค้าที่ใช้งานแอปพลิเคชัน DeeMoney ที่โอนเงินไปต่างประเทศตั้งแต่ 1,000 บาท ขึ้นไปต่อครั้ง ลุ้นรับรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า เทสล่าโมเดล 3, มอเตอร์ไซค์ฮอนด้าเวฟ 110i รุ่นใหม่ปี 2022, สมาร์ทโฟน iPhone 14 Pro Max, AirPods Pro Gen2 และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย รวมมูลค่ากว่า 3.5 ล้านบาท ผู้ที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแคมเปญ “DeeMoney โอนดี แจกฟรีเทสล่า” ได้ที่เฟซบุ๊กและเว็บไซต์ www.deemoney.com”  

นายธนวัฒน์ กิตติสุวรรณ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Digital Juristic ธนาคาร ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ภาพรวมการโอนเงินระหว่างประเทศของธุรกิจธนาคารในช่วง 9 เดือนแรกปี 2566 มี ทิศทางที่ดีขึ้นแสดงถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการค้าต่างประเทศโดยรวม  ขณะเดียวกันธุรกรรมการเงินในโลกไร้พรมแดนได้ขยายไปยังกลุ่มลูกค้าที่กว้างขวาง และในประเทศใหม่ๆ มากยิ่งขึ้น จึงทําให้ตลาดมีความต้องการในการโอนเงินในรูปแบบที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะลูกค้าบุคคลธรรมดาและกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กถึงขนาดกลางที่ต้องการเงินทุนหมุนเวียนที่คล่องตัว และรวดเร็วกว่าการโอนเงินแบบเดิม

ธนาคารไทยพาณิชย์ซึ่งมุ่งให้บริการไร้รอยต่อในทุกช่องทางด้วยการ นําเสนอโซลูชั่นทางการเงินเพื่อตอบสนองความต้องของลูกค้าในโลกปัจจุบันให้ได้อย่างไร้ขีดจํากัด ได้ ร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ DeeMoney ฟินเทคที่มีความเชี่ยวชาญการให้บริการโอนเงินระหว่างประเทศและครอบคลุมเครือข่ายที่กว้างขวาง นําเสนอบริการการโอนเงินระหว่างประเทศรูปแบบใหม่ผ่าน แอปพลิเคชัน DeeMoney ให้แก่กลุ่มแรงงานและผู้ประกอบธุรกิจเมียนมาในประเทศไทยที่มีบัญชีกับ ธนาคารไทยพาณิชย์ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการโอนเงินกลับประเทศที่รวดเร็ว ปลอดภัย และ ค่าธรรมเนียมดีที่สุด”

ปัจจุบันกลุ่มแรงงานและผู้ประกอบธุรกิจเมียนมาในประเทศไทยที่มีบัญชีเงินฝากกับธนาคารไทยพาณิชย์มีจํานวนกว่า 3 แสนบัญชี ซึ่งธนาคารคาดหวังว่า ความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยขยายฐานบัญชีและเพิ่มโอกาสในการนําเสนอบริการทางการเงินอื่นๆ ให้แก่ชาวเมียนมาในประเทศไทย นอกจากนี้ความร่วมมือครั้งนี้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของธนาคารไทยพาณิชย์ในการเป็นศูนย์กลางการโอนเงินในภูมิภาคอาเซียน และแสดงถึงความสําเร็จครั้งสําคัญในกลุ่มฟินเทคและการธนาคาร ซึ่งนําไปสู่ยุคใหม่ของบริการโอนเงินข้ามพรมแดนด้วยการโอนเงินทั่วโลกที่ราบรื่นและขับเคลื่อนการเข้าถึงบริการทางการเงินในประเทศไทย และประเทศในภูมิภาคอาเซียน ทั้งนี้อนาคต ธนาคารมีแผนต่อยอดความร่วมมือดังกล่าวกับ DeeMoney เพื่อให้บริการแก่กลุ่มแรงงานและผู้ประกอบธุรกิจของประเทศเพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย” นายธนวัฒน์ กล่าว

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

19 − 8 =