นอกจากการเมืองที่ร้อนระอุ ด้านวงการตำรวจก็ไม่แพ้กัน ระหว่างศึกของบิ๊กโจ๊กและบิ๊กเต่า แถมถูกประชาชนตั้งคำถามว่ามีเบื้องลึกอย่างไร รายการ คนดังนั่งเคลียร์ ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 เลยเชิญ คุณจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตแกนนำ นปช. และ รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย รองศาสตราจารย์ประจำสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช มาร่วมพูดคุยเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว ที่ทั้งคู่บอกว่าควรมีการปฏิรูปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมเรื่องราวของ “ทักษิณ ชินวัตร”คดี ม.112 มั่นใจว่าจบไม่ง่ายแน่นอนhttps://youtu.be/1FvuNwK8AKA?si=lCSkOPyZjjx5MdRm
คุณจตุพรใกล้ชิดกับพวกเขาดี 2 คน บิ๊กโจ๊ก กับบิ๊กเต่า เขาทะเลาะกันจริงไหมคะ?
คือผมเองเห็นว่าจะจริงหรือไม่จริงก็ตาม ต้องไม่เป็นมวยล้มต้มคนดู ผิดก็ว่าผิด ว่ากันตามเนื้อผ้า แต่หากว่าไม่ใช่พอเป็นเครื่องของการเตะตัดขาระหว่างกัน ประชาชนจะไม่ได้ประโยชน์ ผิด มันไปเปลี่ยนความผิดกันไม่ได้ เพียงแต่อย่าให้คนมีความรู้สึกของการตั้งข้อกล่าวหาเอาไว้เฉพาะก่อนการแต่งตั้งโยกย้ายเท่านั้น คือเราเองไม่ได้มีรายละเอียดสาระแห่งคดี แต่ว่าเห็นรูปแบบลักษณะแบบนี้มากกว่า กรณีบิ๊กโจ๊ก กับบิ๊กเต่า ก่อนหน้านี้ก็มีหลากหลายกรณี เพียงต้องทำความจริงให้ปรากฏ แต่ที่ใหญ่มากกว่านั้น ควรจะยกเครื่องปฏิรูปสำนักงานตำรวจแห่งชาติตามรัฐธรรมนูญ รัฐธรรมนูญบังคับให้มีการปฏิรูป แต่ไม่ยอมปฏิรูปกันเสียทีนึง
เรื่องวงการตำรวจ รบกวนสอบถามอาจารย์ยุทธพร หากกำจัดบิ๊กโจ๊กได้ก็เป็นการตัดตอน ผบ.ตร. ก็จะสะดวกกันไปอีกหลายคน เพราะถ้าเขานั่งจะมีวี่แววอยู่ยาว?
อันนี้มันคือการเมืองในองค์กรไง ที่ผมบอกไงว่า การเมืองในองค์กร กับคดี ต้อง 2 ส่วนนะ แต่ทุกอย่างมันผัวพันธ์ไปหมด กลายเป็นว่าเรื่องการเมือง และใช้กฎหมายให้กลายเป็นการเมือง วิกฤตศรัทธาที่มันจะเกิดขึ้น มันไม่ได้เกิดขึ้นกับคนใดคนนึงเลย แต่มันขึ้นกับองค์กรตำรวจทั้งหมด แล้วประชาชนจะยิ่งไม่มีอะไรที่เขาจะเชื่อมั่น หรือว่าฝากความเชื่อถือไว้กับองค์กรนี่ได้อีก
คุณจตุพรมีความเห็นว่าอย่างไร?
คือไม่ได้ต่างจากที่อาจารย์บอก ปัญหาคือมันไม่ได้ไปรื้อที่โครงสร้างที่มีผลประโยชน์ซับซ้อน บ้านเมืองเรามันมีขาว เทา ดำ ช่องว่างทุกเรื่องมันคือ เป็นผลประโยชน์ที่เข้าไปเก็บเกี่ยว เพราะฉะนั้นใน
ระบบของตำรวจเองทุก สน. หรือแม้กระทั่งสำนักงานมีเส้นสาย ดังนั้นเราจึงได้ยินเรื่องราวต่างๆมากมายในเรื่องผลประโยชน์ ในความเป็นจริง ถ้ากฎหมายตามกฎหมาย แค่น้ำหนักรถบรรทุกก็มีปัญหา หรือเรื่องยาเสพติด ของผิดกฎหมายอะไรก็ตาม มันเป็นช่องว่างหมด ถ้าประเทศของเราสามารถเข้าไปรื้อจัดการได้ เราก็จะได้ตำรวจที่ดี ผิดก็ว่าไปตามผิดนะครับ เพราะว่าของผิดกฎหมายที่มีอยู่ มันเป็นช่องว่างของการทำมาหากินไง แล้วประเทศและประชาชนเกิดความเสียหาย อะไรที่มันเทาดำมันเป็นกลายเป็นช่องว่างผลประโยชน์อย่างมโหฬาร
อาจารย์ยุทธพร ตำรวจเขาก็มีการละครเหรอคะ?
เยอะ (หัวเราะ) อย่างนี้ไม่ได้แก้ปัญหาอะไรให้ประชาชนนะครับ เพราะสุดท้ายผมคิดว่าต้องยกเครื่องและรื้อตำรวจใหม่ วันนี้กระจายอำนาจ อย่าให้รวมศูนย์อยู่ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติครับ
คุณจตุพร ท่านทราบใช่ไหมคะ ท่านฮุน เซน มาเยี่ยมท่านทักษิณถึงบ้าน?
ผมรู้จักกับท่านสมเด็จฮุน เซน ไม่แตกต่างกับท่านอดีตนายกฯทักษิณหรอก สมเด็จฮุน เซน ท่านเป็นนักรบอยู่กับสงครามจนเสียดวงตาไปข้างนึง เพราะฉะนั้นเขามีความรักในการที่จะต่อสู้ และเขานับถือกัน 3 คน สุลต่านบรูไน อดีตนายกฯทักษิณ และสมเด็จฮุน เซน เพราะฉะนั้นเป็นความรู้สึกส่วนตัว และเป็นบุคลิกนิสัยของสมเด็จฮุน เซน ท่านเป็นคนรักพวกพ้อง เป็นคนแบบนั้น เพราะหากเจรจาความเรื่องอื่น เจรจากันตรงไหนก็ได้
อาจารย์ยุทธพร เรื่องของคุณทักษิณ มีแนวไม่ฟ้องใช่ไหมคะ?
มัน 50/50 ครับ เพราะเรื่องนี้ก็ต้องยอมรับว่ามันมีความเกี่ยวข้องกับการเมือง เรื่องนี้มีการพูดถึงก่อนคุณทักษิณออกจากโรงพยาบาลตำรวจเพียงไม่กี่วัน และสิ่งที่เราจะเห็นตอนนี้ ระยะเวลา 180 วันที่เหลือ ก่อนคุณทักษิณจะพ้นโทษในปลายปีนี้ คุณทักษิณจะไม่มีบทบาททางการเมืองใดๆ ผมเชื่อว่าแบบนั้น
คุณจตุพรคะ คุณทักษิณยังมีคดีอะไรรออีกไหมคะ?
เฉพาะหน้าก็คือเรื่อง ม.112 ส่วนเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวกับผลทางเพ่ง ก็ต้องติดตาม ส่วนเรื่องใหม่จะเอาเพิ่มกันหรือไม่ก็สามารถดำเนินการได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว แต่ที่น่าสนใจคือ เรื่องคดี ม.112 ปกติในชั้นพนักงานอัยการจะมีการปล่อยตัวชั่วคราว โดยไม่มีการวางหลักทรัพย์ ทีนี้ในการประกันตัวในชั้นศาลคดี ม.112 เต็มที่ไม่เกิน 2 แสนบาท แต่วันนั้นอดีตนายกฯทักษิณต้องประกันตัวในชั้นพนักงานอัยการถึง 5 แสนบาท ก็เป็นความประหลาดอยู่นะ เราติดตามในเรื่องของคดีความต่างๆ ที่น่าสนใจก็คือว่า ท่านอาจารย์ยุทธ
พร บอก ถูกแล้ว มีกัน 3 ทางความจริงอัยการสูงสุดเห็นควรสั่งฟ้องแล้ว เพียงแต่ว่าอดีตนายกฯทักษิณ ยังไม่ได้อยู่ในประเทศไทย แต่เมื่อร้องขอความเป็นธรรม และนัดฟังคำสั่งในวันที่ 10 เมษายน และถ้ามีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง ก็ต้องส่งกลับมาที่พนักงานสอบสวนต่อนะครับ ถ้ามีความเห็นแย้งก็ส่งกลับไป ก็อยู่ในสภาพนี้ ไม่ได้จบง่ายนะ ต้องดูผลก่อนวันที่ 10 เมษายน มันจะเป็นคำตอบว่าไปในทางทิศใด
แฟนๆ สามารถติดตามรายการ “คนดังนั่งเคลียร์” ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 17.10 น. ทางช่อง 8 กดเลข 27 และรับชมย้อนหลังได้ทางยูทูบช่อง 8 เท่านั้น!