ความหลงใหลสร้างธุรกิจ ‘Cacao Everywhere’‘บดินทร์ เจริญพงศ์ชัย’ อยากให้คนรู้จักและรัก คราฟท์ ช็อกโกแลต

0
78

กว่า 20 ปีที่ความหลงใหล (Passion) ในคราฟท์ ช็อกโกแลต ออกเดินทางไม่มีวันหยุด “บดินทร์ เจริญพงศ์ชัย” ใช้เวลาทุกนาทีไปกับสิ่งนี้แบบไม่ยอมปล่อยมือ จาก Yellow Chocolate กลุ่มที่ร่วมจัดตั้งกับเพื่อนทำกิจกรรมส่งเสริมการปลูกโกโก้ และยกระดับช็อกโกแลตในไทยให้เป็นที่รู้จัก มาถึงการปลุกปั้นลาร์นาเฮ้าส์ (Larna House) ร้านเค้กที่ทำจากช็อกโกแลต ร่วมกับภรรยา “นภัสพร ผลเจริญ”

จากประสบการณ์ที่สั่งสมจากการออกเดินทางทั่วไทย และเดินทางไปทั่วโลก สานต่อแรงบันดาลใจสู่การสร้างแบรนด์ Cacao Everywhere คาเฟ่แห่งใหม่ที่จะมาเปิดโลกของคราฟท์ ช็อกโกแลต (Craft Chocolate) ซึ่งเป็นช็อกโกแลตที่มีการพัฒนารสชาติ และการร่วมทำงานกับเกษตรกรตั้งแต่ต้นทาง

แบรนด์คาเฟ่ที่ทุกคนจะหลงรัก

Cacao Everywhere ตั้งอยู่ที่ Art4C ข้างสามย่านมิตรทาวน์ เป็น Flagship Store คาเฟ่ และ Grocery ศูนย์รวมผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่ทำจากเมล็ดโกโก้จากเกษตรกรและรัฐวิสาหกิจชุมชนทั่วทุกพื้นที่ของไทยมาวางจำหน่าย โดยเปิดตัวครั้งแรก 9 เดือน 10 (9 ตุลาคม 2567)

คาแรคเตอร์ของ Cacao Everywhere จะมีทั้งความสนุก ครีเอทีฟ และรู้จริงเรื่อง คราฟท์ ช็อกโกแลต ตั้งแต่คุณบดินทร์และทีมงาน ไปจนถึงคนชงที่เรียกว่า ช็อกโก้ริสต้า (Chocorista) พร้อมเน้นดีไซน์บรรยากาศให้ผ่อนคลาย เป็นสเปซสำหรับคนที่ชื่นชอบช็อกโกแลตได้มาทำความรู้จักกับคราฟท์ช็อกโกแลตอย่างแท้จริง

บรรยากาศภายในร้าน ดีไซน์ให้เป็นทั้งคาเฟ่เครื่องดื่มจากช็อกโกแลตสัญญาติไทย ชา และ ไอศกรีม ที่สร้างสรรค์เมนูที่คิดค้นมาเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น Iced Roasted Almond Choc Heaven การชูกลิ่นหอมของอัลมอนด์ทั้งเปลือกที่คั่วสุกแล้ว มาเพิ่มรสชาติให้ช็อกโกแลตไทย

Cacao Cider Honey Lemon เมนูที่นำโกโก้นิบส์ผ่านการหมัก คั่วจนหอม ทำให้ได้สารอาหารดี ๆ จากนั้น ผสมกับสูตรน้ำผึ้งแท้จากเกสรดอกไม้ และเลม่อน โซดา ช่วยให้ดื่มง่ายแต่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งเมนูเครื่องดื่มราคาเริ่มต้นที่ 80-160 บาท

ส่วน Grocery จะมีช็อกโกแลตแบรนด์ต่าง ๆ จากผู้ผลิตทั่วประเทศมารวมไว้ที่นี่เช่นเดียวกับในต่างประเทศอย่างสหรัฐอเมริกา มีร้านที่เป็นแหล่งรวมช็อกโกแลต มากกว่า 2,000 แบรนด์มาไว้ ณ จุดเดียว เพื่อให้คนที่รักช็อกโกแลตได้เลือกซื้อเป็นของฝากเพื่อนและครอบครัว

ความน่าสนใจของ Cacao Everywhere ก็คือ ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากโกโก้ ที่มีมากกว่า 50 รายการ ไม่ว่าจะเป็น  ต่างหู กระเป๋า เครื่องสำอาง เซรั่ม โพรไบโอติกส์ โกโก้นิปส์ สินค้าด้านสุขภาพที่เน้นกระบวนการผลิต Waste Management เป็นการใช้ประโยชน์จากโก้โก้ให้ได้มากที่สุด โดยมีของเหลือทิ้งน้อยที่สุด เพื่อตอบโจทย์ด้านความยั่งยืน

แรงบันดาลใจสู่เป้าหมายความยั่งยืน

บดินทร์ ถ่ายทอดความตั้งใจในการปั้น Cacao Everywhere แห่งนี้ขึ้นมาไม่ได้เป็นแค่คาเฟ่ แต่เป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจ และหนึ่งจิ๊กซอว์สำคัญที่จะสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนให้ คราฟท์ ช็อกโกแลตของไทย ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ถึงปลายน้ำ

เสน่ห์ของช็อกโกแลตไทยในแต่ละแหล่งผลิต (Destination) มีความแตกต่างกันของรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่เมื่อได้ชิมแล้วจะรับรู้ได้ถึงรสชาติของผลไม้เมืองร้อน คือ มีความเปรี้ยว มีความหอมหวาน ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่หาไม่ได้ในประเทศอื่น เช่นผลิตจากจังหวัดน่านจะมีความเป็นฟรุตตี้ หากเป็นที่นครศรีธรรมราชจะมีเสน่ห์ไปอีกแบบ ซึ่งที่ผ่านมาได้เข้าไปส่งเสริมการปลูกโกโก้ พร้อมให้คำแนะนำ เพิ่มความรู้ด้านการหมัก และตาก การกะเทาะเปลือกและคัดสรร เพื่อให้ได้มาซึ่ง คราฟท์ ช็อกโกแลตแท้ รสชาติดี ส่งถึงแหล่งจำหน่าย และผู้บริโภค

Cacao Everywhere จึงเป็นฟันเฟือง “กลางน้ำ” สำคัญที่จะรับซื้อจากเกษตรกร และวิสาหกิจชุมชน เบื้องต้นรับจากแหล่งผลิตที่จังหวัดน่านเป็นหลัก เพื่อมาแปรรูปเป็นเครื่องดื่ม และเค้ก พร้อมเสิร์ฟให้กับทุกคน

สเต็ปต่อไปในเป้าหมาย 3 ปีต่อจากนี้  Cacao Everywhere เตรียมขยายผลสู่การเติบโตรูปแบบของแฟรนไชส์ 10 สาขาตามเมืองท่องเที่ยวทั่วไทย ทั้งพัทยา ภูเก็ต และอื่น ๆ จุดหมายสำคัญของผลผลิตช็อกโกแลตจากทั่วประเทศที่จะส่งถึงคนที่รักการบริโภคช็อกโกแลต ทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ไม่ใช่แค่แหล่งรับซื้อ แปรรูป และขายเท่านั้น บดินทร์ ยังมองไกลถึงการพัฒนาด้านความยั่งยืนให้เกิดขึ้นด้วยการส่งเสริมเกษตรกรปลูกโกโก้ได้มากเท่าไหร่ยิ่งจะเข้าไปเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับป่าหัวโล้นได้มากเท่านั้น

หนึ่งเมล็ดโกโก้ บอกเรื่องราว ‘ผู้คน-เศรษฐกิจ’

“ผมเชื่อมั่นว่า ประเทศไทยเป็นแหล่งที่ปลูกโกโก้ได้ดีไม่แพ้ประเทศอื่น” บดินทร์ มุ่งมั่นตั้งใจกับเส้นทางนี้ จากจุดสตาร์ท Cacao Everywhere ถึงการขยายผลระยะไกลที่ไม่หยุดแค่ในไทยเท่านั้น เพราะได้เตรียมแผนพา คราฟท์ ช็อกโกแลตไทยออกไปโลดแล่นในประเทศแถบภูมิภาคเอเชีย 

โจทย์ที่ใหญ่ไม่แพ้กัน บดินทร์ คิดถึงการวาดภาพลงบนผ้าใบฝืนใหญ่ (Canvas) เพื่อทำให้เห็นว่าแต่ละก้าวนั้นจะไปได้ไกลแค่ไหน

ตั้งแต่ส่งเสริมเกษตรกร สร้างผลผลิตที่ได้คุณภาพ จากนั้นมีกลไกการตลาดและขายรองรับอย่าง Cacao Everywhere รวมถึงแบรนด์อื่น ๆ ที่ใช้ช็อกโกแลตเป็นวัตถุดิบหลัก ไปจนถึงสร้างแบรนด์คราฟท์ ช็อกโกแลต ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง

เพื่อให้ได้คำตอบสุดท้ายที่ว่า “หนึ่งเมล็ดโกโก้” หรือ “ช็อกโกแลตหนึ่งแก้ว” คุณค่า หรือ ประโยชน์ที่ได้จะส่งตรงถึงใครได้บ้าง ไม่ว่าจะเป็นรายได้ต่อครอบครัวเกษตรกรดีขึ้น ธุรกิจเติบโต และจีดีพีของประเทศเพิ่มขึ้นจากพืชเศรษฐกิจที่ชื่อ “ช็อกโกแลต”  

จากคนที่หลงใหลในกลิ่นและรสชาติ วันนี้ บดินทร์ ไม่ใช่แค่คิด แต่เริ่มลงมือทำมาตลอด 20 ปี ในการยกระดับศักยภาพ โกโก้และคราฟท์ ช็อกโกแลตของไทยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะในแต่ละท้องถิ่นให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น พร้อมปักธงพาประเทศไทยให้ก้าวไปเป็นเมืองหลวงช็อกโกแลตของภูมิภาคเอเชียในอนาคต

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

thirteen − five =