UPM เครือ PRI คว้า 3 มาตรฐาน ISO ด้านบริหารงานก่อสร้างพร้อมเดินหน้ามาตรฐานสากลต่อเนื่อง ยกระดับงานก่อสร้างปลอดภัย-ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

0
58

ยูไนเต็ด โปรเจคต์ แมเนจเมนท์ หรือ UPM ในเครือ พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น หรือ PRI มุ่งมั่นพัฒนาบริการด้านบริหารงานก่อสร้างต่อเนื่อง คว้า 3 มาตรฐานระดับสากล ISO9001:2015 ISO14001:2015 และ ISO45001:2018 พร้อมเดินหน้ายกระดับมาตรฐานสากลต่อเนื่อง เพื่อสร้างสุขในทุกมิติ สอดรับนโยบายบริษัทที่มุ่งเน้นสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ขับเคลื่อนงานก่อสร้างปลอดภัย

นายสุรินทร์ สหชาติโภคานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรี​โม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PRI ผู้นำธุรกิจการให้บริการเกี่ยวเนื่องกับอสังหาริมทรัพย์สมัยใหม่แบบครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทยังคงมุ่งมั่นสร้างการเติบโตในทุกมิติ ภายใต้แผน Elevate Your Living Experience ได้แก่ 1.ขยายบริการใหม่ไร้รอยต่อ (Expanding Our Business Horizon) 2.ติดปีกทักษะบุคลากร (People Development) 3.ต่อยอดนวัตกรรมใหม่ (Enhance Innovation + Technology) และ 4.ใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อม (ESG & Sustainability for Future Living) ตามที่ประกาศไว้เมื่อต้นปี พร้อมเดินหน้าสร้างมาตรฐานระดับสากลให้องค์กรอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน

ล่าสุด บริษัท ยูไนเต็ด โปรเจคต์ แมเนจเมนท์ จำกัด หรือ UPM บริษัทรับบริหารงานโครงการ (Project Management) และบริหารงานก่อสร้าง (Construction Management) แบบครบวงจร ได้รับมอบใบรับรองมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานก่อสร้างถึง 3 ระบบมาตรฐาน ได้แก่ 1. ISO-9001:2015 มาตรฐานบริหารงานคุณภาพระดับสากล 2. ISO-14001:2015 มาตรฐานการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมขององค์กร และ 3. ISO-45001:2018 มาตรฐานการบริหารจัดการด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย

“ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทและบริษัทในเครือต่างมุ่งมั่นทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ และยกระดับมาตรฐานการทำงานมาตลอด การได้รับใบรับรองมาตรฐาน ISO ทั้ง 3 ระบบ ถือเป็นการตอกย้ำคุณภาพการทำงานแบบครบวงจรของบริษัทและ UPM และสะท้อนถึงความเป็นมืออาชีพของทีมงานทุกคนในการส่งมอบงานและบริหารงานให้ได้มาตรฐานสากล เราน่าจะเป็นเพียงหนึ่งในไม่กี่รายในธุรกิจบริหารงานก่อสร้าง ที่ได้รับมาตรฐานมากถึง 3 ระบบ”

ด้าน ผศ.ดร.อรุณ ศิริจานุสรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร UPM กล่าวว่า หัวใจสำคัญของการบริหารงานก่อสร้างในปัจจุบัน ได้แก่ 1.การพัฒนาคุณภาพการบริหารงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการลูกค้า ตลอดจนความเปลี่ยนแปลงทางสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคม 2.ความใส่ใจด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม ลดการใช้พลังงานอย่างสูญเปล่า ใส่ใจการบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก 3.ความปลอดภัยและอาชีวอนามัย ใส่ใจสุขภาพและความเป็นอยู่ของพนักงาน ป้องกันการเจ็บป่วย บาดเจ็บ หรือเสียชีวิตของพนักงานจากการทำงาน

“บริษัทใส่ใจหัวใจสำคัญทั้ง 3 ด้าน จึงเดินหน้าพัฒนาองค์กรจนคว้ามาตรฐาน ISO ถึง 3 ระบบ เรามั่นใจว่าเรื่องดังกล่าวจะเป็นเครื่องยืนยันให้ทั้งลูกค้าโครงการที่ให้บริษัทเข้าไปช่วยบริหารงานก่อสร้าง ตลอดจนผู้เข้ามาใช้งานโครงการหลังก่อสร้างแล้วเสร็จ มั่นใจได้ว่า เราบริหารงานก่อสร้างโดยยึดมั่นมาตรฐานเหล่านี้ ใส่ใจทั้งสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัยและอาชีวอนามัย ตลอดจนมีการพัฒนามาตรฐานต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้งานส่งมอบถึงลูกค้าโครงการและผู้บริโภคด้วยมาตรฐานที่ครบถ้วน และเป็นส่วนหนึ่งของการยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดี” ผศ.ดร.อรุณ กล่าว

สำหรับแนวทางการปฏิบัติด้านสิ่งแวดล้อม ที่บริษัทฯ มุ่งมั่นให้ความสำคัญ เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจให้ได้ตามมาตรฐาน ที่จะต้องมีการตรวจสอบผ่านระบบ ISO ทั้ง 3 ระบบ รวมทั้งยังมีแนวความคิดที่จะมีการต่อยอดทางธุรกิจ ให้ครอบคลุมความเป็น Green Construction ให้ครอบคลุมการดำเนินงานธุรกิจ ด้าน Construction Service แบบครบวงจร ในอนาคตอีกด้วย

ในส่วนของ ISO-9001:2015 มาตรฐานบริหารงานคุณภาพระดับสากล บริษัทฯ มีการดำเนินงานสอดคล้องตามข้อกำหนดด้านคุณภาพและการจัดการภายใน การจัดการด้านเอกสาร การบริหารงานเพื่อประกันคุณภาพ ซึ่ง ISO9001:2015 จะทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นได้ว่ากระบวนการต่างๆ ของบริษัทฯ ได้รับการควบคุมและสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้

ISO-14001:2015 มาตรฐานการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมขององค์กร โดยทางบริษัทฯ มีการดำเนินการทางด้านสิ่งแวดล้อมในหลายส่วน เพื่อเป็นการส่งเสริมและปลูกฝังจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมให้กับบุคลากร และมุ่งมั่นลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม โดยมีการดำเนินโครงการด้านสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง เช่น ในปี 2566 มีการดำเนินโครงการบริหารจัดการการใช้กระดาษ ส่งเสริมการใช้กระดาษ REUSE และลดการใช้กระดาษใหม่ ซึ่งมีผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจ และในปี 2567 นี้ ทางบริษัทฯได้จัดทำโครงการ UPM รักษ์โลก “เปลี่ยนพลาสติกเป็นบุญ” ซึ่งสามารถลดปัญหาขยะพลาสติกได้อีกช่องทางหนึ่ง

ISO-45001:2018 มาตรฐานการบริหารจัดการด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย โดยทาง UPM ซึ่งเป็นผู้ให้บริการบริหารงานก่อสร้าง ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการส่งเสริมและปลูกฝังจิตสำนึกในการปฏิบัติงานอย่างปลอดภัย ทั้งการปฏิบัติตามกฎหมายด้านความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด การประกาศใช้คู่มือความปลอดภัยเกี่ยวกับงานก่อสร้างและการกำหนดอุปกรณ์ความปลอดภัยขั้นพื้นฐานสำหรับพนักงาน มีทีมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยออกสุ่มตรวจพื้นที่หน้างานเป็นประจำ รวมถึงการปรับปรุงพื้นที่ปฏิบัติงาน เพื่อให้บุคลากรของบริษัทฯ มีพื้นที่ทำงานที่ปลอดภัย รวมถึงการส่งเสริมให้พนักงานมีสุขภาพที่ดี ผ่านโครงการออกกำลังกาย ซึ่งปีนี้ ทางบริษัทฯ ดำเนินโครงการต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 แล้ว

โดย ISO ทั้ง 3 ระบบ ทาง BUREAU VERITAS ซึ่งเป็นผู้นำด้านการตรวจประเมินและออกใบรับรองระดับโลก ได้ลงพื้นที่เพื่อดำเนินการตรวจประเมินทั้งด้านเอกสารและการปฏิบัติงานในพื้นที่โครงการ ผ่านการสัมภาษณ์พนักงาน เพื่อวัดผลและประเมินผลการปฏิบัติงานของบริษัทฯ

ปัจจุบัน บริษัทฯ มีการรับบริหารงานโครงการ และบริหารงานก่อสร้างทั้งภาครัฐ และเอกชนรวมมากกว่า 90 โครงการ และยังคงเดินหน้าประมูลงานใหม่ๆ ทั้งกลุ่มงานบริการที่ปรึกษา ควบคุมงานก่อสร้าง กลุ่มงานบริหารจัดการอาคาร เข้าสู่พอร์ตเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงครึ่งแรกปี 2567 บริษัทฯ มีรับบริหารงานโครงการ และบริหารงานก่อสร้างอีกไม่น้อยกว่า 15 โครงการ ตอกย้ำให้เห็นถึงการทำงานที่ได้มาตรฐานสากล จนเป็นที่ยอมรับและเชื่อถือของลูกค้า สอดรับกับกลยุทธ์การดำเนินงานของบริษัทที่ต้องการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต

UPM ดำเนินธุรกิจให้บริการบริหารงานโครงการ (Project Management) และบริหารงานก่อสร้าง (Construction Management) แบบครบวงจร ประกอบด้วย UPM Design Studio ให้บริการงานด้านสถาปัตยกรรม วิศวกรรมโครงสร้าง และวิศวกรรมงานระบบประกอบอาคาร UPM Inspector ให้บริการรับตรวจบ้านและคอนโด UPM Monitoring & Laboratory ให้บริการที่ปรึกษาสิ่งแวดล้อมและการวิเคราะห์คุณภาพสิ่งแวดล้อม UPM Academy สถาบันฝึกอบรมด้านอสังหาริมทรัพย์พัฒนาทรัพยากรมนุษย์

สำหรับ PRI เป็นผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการที่เกี่ยวเนื่องกับอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร ชั้นนำของประเทศ มีประสบการณ์กว่า 11 ปี ปัจจุบัน ดำเนินธุรกิจภายใต้ 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ 1.กลุ่มธุรกิจต้นน้ำ – บริการก่อนเข้าอยู่อาศัย (Pre-Living Services) อาทิ บริการที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้าง บริการออกแบบด้านสถาปัตยกรรม งานโครงสร้าง งานโยธา และงานระบบ บริการจัดฝึกอบรมและพัฒนาทักษะบุคลากร 2.กลุ่มกลางน้ำ – บริการการจัดการเพื่อการอยู่อาศัย (Living Services) อาทิ บริการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ โดยครอบคลุมตั้งแต่การบริหารจัดการนิติบุคคลอาคารชุดหรือบ้านจัดสรร ศูนย์สรรพสินค้า อาคารสำนักงาน ให้บริการบริหารจัดการ Residential Property และ Service Apartment การให้บริการเป็นตัวแทนในการ ซื้อ-ขาย-เช่า อสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร ให้บริการที่ปรึกษาด้านการตลาด และสื่อด้านอสังหาริมทรัพย์ รวมไปถึงการให้บริการให้คำปรึกษาและพัฒนาทางด้านซอฟต์แวร์ และ 3.กลุ่มปลายน้ำ – บริการหลังการขายที่อยู่อาศัย (Living & Earning Services) อาทิ บริการแม่บ้านและช่าง การผลิตและจัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ บริการออกแบบและตกแต่งภายใน

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

5 × five =