รับมือ PM 2.5 อย่างมีประสิทธิภาพ: เคล็ดลับเพื่อความปลอดภัยในบ้าน อาคารสำนักงาน และอาคารพาณิชย์

0
37

เพื่อรับมือกับฝุ่น PM 2.5 อย่างมีประสิทธิภาพ ‘พลัส พร็อพเพอร์ตี้‘ ในฐานะผู้บริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร ขอแนะนำแนวทางป้องกันและดูแลพื้นที่อยู่อาศัย อาคารสำนักงาน และอาคารพาณิชย์ เพื่อช่วยลดผลกระทบจาก PM 2.5 และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้อยู่อาศัยและผู้ใช้งาน

ตั้งแต่ต้นปี 2568 ปัญหาฝุ่น PM 2.5 มีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่องในพื้นที่กรุงเทพฯ และหลายจังหวัด โดยเฉพาะช่วงตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา ค่าฝุ่น PM 2.5 ในหลายพื้นที่ทะลุเกณฑ์มาตรฐานสู่ระดับ “สีส้ม” ซึ่งเริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพ

ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขเผยว่า ประชากรถึง 38 ล้านคน กำลังอาศัยในพื้นที่ที่มีค่า PM 2.5 เกินมาตรฐาน (37.5 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร) โดยในจำนวนนี้มีถึง 15 ล้านคนที่เป็นกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง และเด็กเล็ก ซึ่งได้รับผลกระทบจนค่าเฉลี่ยอายุขัยของคนไทยลดลงถึง 1.78 ปี

แนวทางดูแลที่อยู่อาศัย

  1. 1.ทำความสะอาดพื้นที่ส่วนกลางที่อาจมีฝุ่นละอองเข้าถึงได้ง่าย
    ปิดช่องลมและหน้าต่างที่ไม่จำเป็น ทำความสะอาดจุดสะสมฝุ่น เช่น พรมเช็ดเท้าและพรมปูพื้น พ่นละอองน้ำในอากาศ ฉีดล้างถนนส่วนกลาง และรดน้ำต้นไม้บริเวณโครงการ
  2. 3.ปรับปรุงภูมิทัศน์
    เลือกปลูกต้นไม้ใบสนเพื่อลดฝุ่นสะสม ดูแลสวนด้วยหญ้าคลุมดินแทนการเทปูนเพื่อช่วยเพิ่มความชื้น และดูแลสระว่ายน้ำกลางแจ้งให้สะอาดเพื่อลดโอกาสฝุ่นเจือปน
  3. 3.ตรวจสอบคุณภาพน้ำในสระ
    วัดค่าคลอรีนและค่า pH ให้ได้มาตรฐาน ทำความสะอาดรางน้ำล้นและพื้นรอบสระอย่าสม่ำเสมอ พร้อมดูดตะกอนและเก็บสิ่งสกปรกจากก้นสระ
  4. 4.ลดการปล่อยมลพิษออกสู่ชุมชน ผ่านการการดูแลเครื่องจักรต่าง ๆ ในอาคารให้ทำงานได้ตามปกติ
  5. 5.ทีมนิติบุคคลแนะนำวิธีดูแลสุขภาพท่ามกลางฝุ่น PM 2.5 แก่ลูกบ้าน 
  6. ผ่านช่องทางการสื่อสารที่เข้าถึงลูกบ้านอย่างทั่วถึง โดยสำหรับพลัสฯ เอง มีการแจ้งข้อมูลการดูแลตนเองจาก PM 2.5 และเช็คค่าฝุ่นก่อนออกจากบ้านได้อย่างสะดวกรวดเร็วผ่าน Home App

อาคารสำนักงานและอาคารพาณิชย์

  1. 1.ติดตั้งฟิลเตอร์กรองฝุ่น PM 2.5
    ใช้ฟิลเตอร์ MERV 13 ขึ้นไป พร้อมเพิ่มความถี่การล้างแอร์ในช่วงค่าฝุ่นสูง
  2. 2.ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศ
    ในจุดสำคัญ เช่น ทางเข้าอาคารหลักและล็อบบี้ เพื่อลดฝุ่นที่ติดตัวผู้ใช้อาคาร
  3. 3.ปิดช่องระบายอากาศ
    ช่วงค่าฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐาน เพื่อป้องกันฝุ่นเข้ามาในอาคาร
  4. 4.ลดกิจกรรมก่อฝุ่นในอาคาร
    ลดการซ่อมแซมและปรับปรุงพื้นที่ในช่วงที่ฝุ่นสูง เปลี่ยนมาใช้เครื่องดูดฝุ่นแทนไม้กวาด
  5. 5.รณรงค์ใช้ขนส่งสาธารณะ
    กระตุ้นให้พนักงานและผู้ใช้อาคารลดการใช้รถส่วนตัว เพื่อลดมลพิษและการเกิดฝุ่น PM 2.5

ท่ามกลางความท้าทายจากมลพิษที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง การใส่ใจในรายละเอียดเหล่านี้จะนำไปสู่ความยั่งยืนในด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อมที่ดีในระยะยาวได้ อีกทั้ง ในฐานะผู้บริหารจัดการที่อยู่อาศัยและอาคาร การตื่นตัวและเตรียมแผนรับมืออย่างเป็นระบบถือเป็นบทบาทสำคัญในการสร้างความปลอดภัยและคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ผู้อยู่อาศัยหรือผู้ใช้งานพื้นที่ การให้ความใส่ใจในเรื่องเหล่านี้ไม่เพียงช่วยลดผลกระทบจากมลพิษ แต่ยังสร้างความมั่นใจและความอุ่นใจให้กับผู้อยู่อาศัยและผู้ใช้งานพื้นที่อีกด้วย

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่